หลวงพ่อทวด เหรียญเม็ดแตง รุ่นปาฏิหาริย์ เนื้อทองคำลงยาสีเขียว หมายเลข1 สร้าง 19 เหรียญ สำนักสงฆ์ต้นเลียบปี 2556
เหรียญเม็ดแตงรุ่นนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าเม็ดแตงทั่วๆ ไป ความหนาของเหรียญก็หนากว่าเหรียญเม็ดแตงทั่วไปด้วย กว้าง 1.5 ซม. สูง 2.4 ซม. น้ำหนัก ทองคำ 8.5 กรัม เรียกได้ว่า สูงกว่ามาตราฐาน ขนาดกำลังสวยด้วยค่ะ เหมาะสำหรับสุภาพสตรี หรือเด็กเล็กๆ ไว้บูชาติดตัวไว้ หรือหากจะนำไปเลี่ยมกรอบทองคำ ก็จะได้ไม่ต้องเสียค่ากรอบทองคำมาก เพราะพระขนาดไม่ใหญ่มากด้วย
เหรียญสวยแกะพิมพ์โดยช่างแกะเหรียญดังอันดับหนึ่งของประเทศชนวน มวลสารสุดยอด วัตถุประสงค์ดี จัดสร้างโดยคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์และหน่วยกู้ระเบิด EOD ภาคใต้
วัตถุประสงค์การจัดสร้าง
*เพื่อสร้าง หลวงพ่อทวด องค์ใหญ่ ประดิษฐานในค่ายทหารในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
*ซื้อที่ดินถวายสำนักงานสงฆ์ ต้นเลียบ ประมาณ 4 ไร่ เพื่อก่อตั้งเป็น วัดต้นเลียบ
*จัดตั้งกองทุน เพื่อก่อตั้่ง มูลนิธิหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด
*เพื่อมอบเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ในพื้นที่เสี่ยงภัย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
รายนามพระเกจิที่ร่วมปลุกเสก เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นปาฏิหาริย์ สำนักสงฆ์ต้นเลียบ
วาระ 1 วัดท่าพระเจริญพรต จ.นครสวรรค์
หลวงพ่อโฉม วัดตำหนักหลวง
พ่อแฉล้ม วัดกระโดงทองหลวง
พ่อชุบวัดวังกระแจะ
หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน
หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก
พระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่
อาจารย์กวง
วาระ 2 ณ สำนักสงฆ์ต้นเลียบ จ.สงขลา
พ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย จ.สงขลา
พระอาจารย์หนุ่ม วัดบางแวก กทม.
พระอาจารย์ชัย วัดพะโค๊ะ จ.สงขลา
พ่อท่านแสง วัดศิลาลอย จ.สงขลา
อาจารย์เอียด วัดโคกแย้ม จ.พัทลุง
พระสมุห์วรัญญู สำนักสงฆ์ต้นเลียบ จ.สงขลา
พ่อท่านลาภ วัดเขากอบ จ.ตรัง
พระอาจารย์แดง วัดไร่ จ.ปัตตานี
พระสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์อีก 9 รูป
เห็นพิธีแล้วยิ่งใหญ่ อลังการจริงๆ เรียกได้ว่า รวมพระเกจิชื่อดังทั่วทุกภาคของประเทศเลย และก่อนหน้านี้ ยังมีพิธีเททอง ชนวนมวลสารที่วัดบวรนิเวศวิหารด้วย และยังนำชนวนมวลสารที่เหลือจากการจัดสร้าง รุ่นนิรันตราย 77 และ รุ่นปาฏิหาริย์ EOD สุดยอดหลวงพ่อทวดทั้งนั้นเลย นำมาเททองผสมเป็นขนวน มวลสารด้วย รวมทั้งชนวนมวลสารของพระเกจิเก่าๆ ที่ละสังขารไปแล้วเป็นจำนวนมาก มาหล่อมหลอมทำพิธีปลุกเสกอีกครั้ง เรียกได้ว่า มวลสารจัดเข้มข้นทีเดียวค่ะ นำมาปลุกเสกโดยพระเกจิชื่อดังในปัจจุบันทั่วทุกภาคทีเดียว จึงพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
สำนักงานสงฆ์ต้นเลียบ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ ก่อนจัดสร้างหลวงพ่อทวดทุกรุ่น ก็ต้องมีการบรวงสรวงที่สำนักต้นเลียบก่อนเสมอ เพราะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวพันธ์ ผูกพันธ์กับหลวงพ่อทวดโดยตรง
ประวัติสำนักสงฆ์ต้นเลียบ (บ้านเกิดและสถานที่ฝังรก หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด)
หมู่ 1 ตำบลดีหลวง อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา
“สำนักสงฆ์ต้นเลียบ” (บ้านเกิดและสถานที่ฝังรกหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด) ตำนานที่มีหลักฐานปรากฏอยู่จริงบนคาบสมุทรสทิงพระ
“ต้นเลียบ” เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ อยู่ในตระกูลเดียวกับต้นโพธิ์วัดโดยรอบแล้วมีลำต้นประมาณ 21 เมตรเป็นต้นไม้ที่อายุยืนยาวมานานแต่อดีตกาลนับได้ 400 กว่าปีปัจจุบันนี้ยืนเด่นตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขา ให้ร่มเงาและความร่มรื่นอยู่ภายในสำนักสงฆ์ต้นเลียบควบคู่ไปกับเจดีย์ที่ฝังรกของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดซึ่งถือกันว่าเป็นต้นไม้ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ในแถบภูมิภาคนี้ไม่มีผู้ใดกล้าจะลบหลู่เป็นต้นไม้ที่สำคัญในตำนานเกี่ยวกับหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
ตามประวัติเล่ากันว่า เมื่อนายหู และนางจันทร์ ได้ให้กำเนิดลูกชาย(หลวงปู่ทวด) นายหู ก็ได้นำ “รก” มาฝังไว้ที่โคนต้นเลียบด้านทิศเหนือปัจจุบันนี้ก็คือสำนักสงฆ์ต้นเลียบ ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลดีหลวง อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา อยู่ห่างจากวัดพะโคะเพียงแค่ 2 กิโลเมตรกาลก่อนบริเวณต้นเลียบแห่งนี้ ได้กลายสภาพเป็นที่รกร้างเนื่องจากขาดผู้ดูแล มีบรรดาสรรพสัตว์น้อยใหญ่มาอาศัยเป็นที่หวาดกลัวจนบรรดาชาวบ้านไม่กล้าเข้ามาในบริเวณนี้จวบจนท่านอาจารย์แก้ว พุทธมุนี เจ้าอาวาสวัดดีหลวงสมัยนั้นได้รวบรวมพระเณร และชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง เข้ามาพัฒนาต้นเลียบจนดูสะอาดร่มรื่น ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระภิกษุ-สามเณรจนกระทั่งท่านมรณภาพ
เมื่อปี พ.ศ.2497 ได้มีสัปปุรุษ 2 ท่าน เดินทางมาจากถ้ำน้ำร้อนอำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง คือ สัปปุรุษช่วง กับสัปปุรุษเนื่องมาทำธุระที่วัดดีหลวง หลังเสร็จธุระแล้วทั้งสองก็เตรียมตัวกลับถ้ำน้ำร้อนแต่กลับไม่ได้เนื่องจากในขณะนั้นท้องทะเลบังเกิดคลื่นลมแรงไม่มีเรือลำใดกล้าจะไปส่ง แม่หลงและบิดาก็ได้นิมนต์ให้สัปปุรุษทั้งสองคน มาอยู่ประจำที่ต้นเลียบเพราะเห็นว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่สมควรจะปล่อยไว้ให้เป็นที่รกร้างเหมือนอย่างที่เป็นอยู่สัปปุรุษทั้งสองจึงรับปากและจำพรรษาอยู่ที่ใต้ต้นเลียบเป็นที่ยินดีของบรรดาชาวบ้านยิ่งนัก
สัปปุรุษทั้งสอง ได้ช่วยกันร่วมแรงร่วมใจกับชาวบ้านก่อสร้างศาสนวัตถุขุดบ่อน้ำก่อด้วยอิฐดินเผาโค้ง สร้างพระประจำวันนำมาประดิษฐานไว้รอบโคนต้นเลียบที่ฝังรกของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด(ผู้ที่สร้างพระประจำวันสมัยนั้นเท่าที่สืบรู้ ก็คือ ตาขำ ศิริพร, ตาช่วงแก้ว, ลุงเคว็จ นัคราบัณฑิต, ตาพลับ พรหมอ่อน)
ภายหลังสัปปุรุษเนื่องได้ขอตัวกลับไปอยู่ที่ถ้ำน้ำร้อน อำเภอเขาชัยสนยังคงแต่สัปปุรุษช่วง ได้นำชาวบ้านสร้างเจดีย์ทรงลังกาองค์เล็กนำมาประดิษฐานอยู่เหนือที่ฝังรกของหลวงปู่ทวด และยังได้สร้างรูปเหมือนหลวงปู่ทวด(ด้วยปูนซีเมนต์) อีก 1 องค์ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในวิหารหลวงปู่ทวดใต้ต้นเลียบ
ก่อนวันฉลองหลวงปู่ทวด เพียง 3 วัน สัปปุรุษช่วง ได้ขออุปสมบทที่ วัดดีหลวง โดยมีพระอธิการลั่น กาญจโณ เป็นพระอุปัชฌาย์ครั้งถึงเดือนยี่ ได้มีการฉลองศาลา เบิกเนตรพระประจำวัน ทำพิธีพุทธาภิเษก นำวัตถุมงคลหลวงปู่ทวดเข้ากรุจนล่วงมาถึงปี พ.ศ.2500 หลวงปู่จำเนียร โชติธัมโมระหว่างที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดพะโคะ ขณะนั่งเจริญสมาธิภาวนาปรากฏดวงวิญญาณขององค์หลวงปู่ทวด มาปรากฏต่อหน้าท่านและได้ชี้มาที่ตัวท่านบอกให้ไปช่วงดูแลต้นเลียบอันเป็นสถานที่ฝังรกขององค์หลวงปู่ทวด ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีผู้ใดดูแลมีสภาพที่รกร้าง
เมื่อหลวงปู่จำเนียร โชติธัมโม มาจำพรรษาที่ต้นเลียบแห่งนี้แล้วก็ได้รวบรวมชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ทั้งบ้านวัดเล็ก บ้านเลียบมาช่วยกันพัฒนาเพื่อให้เหมาะเป็นสถานที่เจริญธรรม วิปัสสนากรรมฐานหลวงปู่จำเนียร โชติธัมโม ชาวบ้านเชื่อกันว่าท่านเป็นผู้ที่เมตตามหานิยมมีวาจาสิทธิ์ โดยท่านได้ศึกษาศาสตร์วิชาอาคมมาหลายแขนงจากสำนักเขา
อ้อ จังหวัดพัทลุง สามารถนำมาช่วยเหลือรักษาผู้ที่ถูกคุณไสยได้ท่านสามารถหยั่งรู้ด้วยญาณวิเศษถึงวันมรณภาพของตัวเองโดยบอกกล่าวกับลูกศิษย์ใกล้ชิดว่า ก่อนวันเข้าพรรษา 7 วันท่านจะละสังขารแล้ว และเมื่อถึงวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2539 เวลา 21.20 นาฬิกา ท่านก็ได้จากไปอย่างสงบแต่ยังคงทิ้งร่องรอยการปฏิบัติและคุณงามความดีไว้ให้คนรุ่นหลังได้เจริญรอยตามและยึดเป็นเยียงอย่างรวมอายุท่านได้ 99 ปี 40 พรรษา
ปัจจุบันนี้สรีระสังขาร ของหลวงปู่จำเนียร โชติธัมโมกลายสภาพเป็นหินบรรดาลูกศิษย์ และคณะกรรมการได้เก็บไว้ในโลงแก้ว ที่สำนักสงฆ์ต้นเลียบหมู่ที่ 1 ตำบลดีหลวง อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลามีลูกศิษย์ลูกหาที่ศรัทธาเคารพนับถือและผู้ที่ท่านเคยช่วยเหลือต่างแวะเวียนเข้ามากราบไหว้สรีระของท่านอย่างต่อเนื่อง
ที่มา : มหาเศรษฐีพระเครื่อง http://mahasetthee.tarad.com/
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.guaranteepra.com/webboard/show.php?Category=publicize&No=408229