พระกริ่งสมเด็จสุวัฑฒโน รุ่น 2
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ชุดทองคำ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี2554 สร้างเพียง 99 ชุด
สวยงามมาก
พระกริ่งสมเด็จสุวัฑฒโน รุ่น 2 ชุดทองคำนี้
มีขนาดองค์พระ กว้าง 2.5 ซม. สูง 3.8 ซม. ลึก 1.6 ซม.
และมีหมายเลขประจำองค์พระ คือ 88 ทั้ง 3 องค์
ประกอบด้วย
เนื้อทองคำ หนัก 40.38 กรัม
เนื้อนวโลหะแก่ทองคำ หนัก 27.32 กรัม
เนื้อทองเหลือง หนัก 27.56 กรัม
เนื่องด้วย ปี 2553 เป็นปีที่สมเด็จพระญานสังวรณ์
ทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชครบ 21 ปี ในวันที่ 23 เมษายน 2553 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสดังกล่าว
พระราชรัตนมงคล (มนตรี) พร้อมเหล่าศิษยานุศิษย์ได้จัดสร้างพระพุทธรูปปางมารวิขัย
ขนาดพระเพลากว้าง 5 เมตร สูง12.50 เมตร ประดิษฐาน ณ วัดเวฬุวัน
และสมเด็จพระสังฆราชได้ทรงประทานนามว่า พระพุทธอุดมมงคลเวฬุวัน
วัตถุประสงค์นี้การจัดสร้าง เพื่อนำปัจจัยไปก่อวิหาร ขนาดกว้าง 40 เมตร ยาว 50 เมตร
ครอบพระอุดมมงคลเวฬุวัน ที่กำลังก่อสร้างอยู่ เพื่อจะอำนวยความสะดวกให้แก่พระสงฆ์
สามเณร ตลอดจน อุบาสก อุบาสิกา และประชาชนทั่วไป เข้าไปศึกษาและปฏิบัติธรรม
ทั้งยังเป็นศูนย์กลางของการปฏิบัติธรรมของพระสายกรรมฐาน
ลักษณะเด่นขององค์พระ
ด้านหลังสลักนามฉายาของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก คือ “สุวัฑฒโน” และมีหมายเลขประจำองค์พระทุกองค์
ส่วนใต้ฐานมีโค๊ตลายเซนต์พระนาม “สมเด็จพระญาณสังวร” พุทธศิลป์ธิเบตโบราณ
ที่มีความงดงาม จีวรครองมีลวดลายวิจิตร ที่พระหัต์ทรงหม้อยาวิเศษ
ซึ่งเป็นต้นตำรับสำหรับการสร้างพระกริ่ง
การสร้างพระกริ่งครั้งนี้
สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช
ได้รับประทานอนุญาตให้สร้างพระกริ่งพุทธศิลป์แบบจีน ซึ่งมีความงดงามอย่างยิ่ง
และได้ถวายนามพระกริ่งว่า “พระกริ่งสุวฑฺฒโน” ซึ่งเป็นพระนามฉายาของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช
ที่ได้ประทานอนุญาตให้สำนักเลขาฯ อัญเชิญมาตั้งเป็นนามพระกริ่งและพระผงสมเด็จพระพุทธพิมพ์
รูปแบบของพระกริ่งที่จัดสร้างในครั้งนี้
เป็นพุทธศิลป์ธิเบตโบราณ ที่มีความงดงามยิ่งนัก จีวรครองมีลวดลายวิจิตร
ที่พระหัตถ์ ทรงหม้อยาวิเศษ ซึ่งเป็นต้นตำหรับของการสร้างพระกริ่ง
ด้านหลังองค์พระกริ่งที่ฐานจารึกอักษรว่า “สุวฑฺฒโน” เหนือขึ้นมาเป็นโค๊ตพระนามย่อ
ญสส. และหมายเลขกำกับองค์พระกริ่ง ซึ่งพระกริ่งทุกองค์มีหมายเลขกำกับ
ใต้ฐานเป็นลายเซ็นต์พระนามสมเด็จพระญาณสังวร และอักษรขอมเป็นโค๊ตกำกับไว้
พระสมเด็จสุวฑฺฒโนมีขนาดเท่ากับพระสมเด็จวัดระฆังที่สมเด็จพระพุฒาจารย์
(โต) สร้าง และพุทธลักษณะเช่นเดียวกันกับพระกริ่ง ประดิษฐานภายในซุ้มเรือนแก้ว
ด้านหลังของพระสมเด็จสุวฑฺฒโน ประดิษฐานพระนามย่อ ญสส.ใต้ฉัตรสามชั้น
และใต้ลงมาเขียนข้อความว่า ๓ ตุลาคม ๒๕๕๔ วัดบวรนิเวศวิหาร การสร้างพระสมเด็จ
สุวฑฺฒโนครั้งนี้ ได้นำมวลสารจากพระสมเด็จวัดระฆัง พระผงสมเด็จบางขุนพรหม
ซึ่งชำรุดและได้ที่มีผู้นำมาถวายสมเด็จพระสังฆราช
และดินจากสังเวชนียสถานจากประเทศอินเดีย ผสมเป็นมวลสารศิริมงคล
ความเชื่อเกี่ยวกับพระกริ่งที่จัดสร้างในครั้งนี้คือ ไภสัชยคุรุ
ผู้ทรงเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์สมบูรณ์ทั้ง จิตใจและกาย
พระองค์ทรงรอบรู้ในสัจจะธรรม
ทรงหยั่งรู้ในโลกทรงเป็นผู้ชี้ทางให้มวลมนุษย์และเหล่าสรรพสัตว์
ทรงได้มีมหาปณิธานข้อหนึ่งว่า “เพียงแต่นามของเราผ่านโสตของเขาเท่านั้น
ขอสรรพความ เจ็บป่วย จงปราศไปสิ้น จงเป็นผู้มีกายใจอันผาสุก มีบ้านเรือนอาศัย
พรั่งพร้อมด้วยธนสารสมบัติ จนที่สุดก็จักได้สำเร็จแก่พระโพธิญาณ
เพราะมหปณิธานของพระไภสัชยคุรุพุทธเจ้าดังกล่าวนั้น
พุทธศาสนิกชนฝ่ายมหายานในจีน
ญี่ปุ่น เกาหลี ทิเบต เวียดนาม เขมร กระทั่งประเทศไทย
จึงเคารพนับถือพระพุทธปฏิมาของพระไภษัชยคุรุ จึงนิยมสร้างองค์พระปฏิมา
ปางถือบาตรน้ำมนต์ หรือผลสมอ ขนาดเล็ก
คือพระพุทธรูปพระไภสัชยคุรุที่เรียกกันว่าพระกริ่ง
เสียงที่ดังของเม็ดกริ่งที่บรรจุในองค์พระที่ดังแต่ละครั้งจะเท่ากับการปรากฎนามของพระองค์
ซึ่งจะยังความผาสุก ความเจริญมาให้แก่ผู้ที่มีไว้สักการบูชา
พระกริ่งสุวัฑฒโนที่จัดสร้างในครั้งนี้ ประกอบด้วย เนื้อทองคำ 99 องค์
เนื้อนวโลหะ 1,999 องค์ และเนื้อทองเหลือง 3,999 องค์ โดยได้รับประทานชนวนพระกริ่งหลายๆ
รุ่นที่สมเด็จพระสังฆราชทรงเก็บรวบรวมไว้ ให้นำมาผสมหล่อเป็นพระกริ่งสุวฑฺฒโน
ประกอบพิธีเททอง ณ สนามวัดบวรนิเวศวิหาร วันที่
20 สิงหาคม 2554 เวลา 15.15
น.พิธีพราหมณ์โดยพระราชครูวมเทพมุนีเป็นประธานประกอบพิธี พิธีสงฆ์
โดยมีพระเทพสารเวที ผู้ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช
เป็นผู้แทนพระองค์สมเด็จพระสังฆราช ประกอบพิธีเททอง
พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถาประกอบด้วยสมเด็จพระราชาคณะและรองสมเด็จพระราชาคณะ
มีรายนามดังนี้
1.สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ
2.สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร
3.สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดเทพศิรินทราวาส
4.พระพรหมเวที วัดไตรมิตรวิทยาราม
5.พระพรหมวชิรญาณ วัดยานนาวา
6.พระพรหมโมลี วัดพิชยญาติการาม
7.พระพรหมเมธาจารย์ วัดบุรณศิริมาตยาราม
8.พระวิสุทธิวงศาจารย์ วัดปากน้ำ
9.พระพรหมเมธี วัดสัมพันธวงศาราม
10.พระพรหมดิลก วัดสามพระยา
ต่อมาในวันที่ 24 กันยายน 2554 เวลา 15.19 น.
ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร โดยมีพระเทพสารเวที
ผู้ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการ สมเด็จพระสังฆราช เป็นผู้แทนพระองค์สมเด็จพระ
สังฆราชประกอบพิธีจุดเทียนชัย มีพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ประกอบด้วย “สมเด็จ พระ
พระราชาคณะ และรองสมเด็จพระราชาคณะ” มีรายนาม
ดังนี้
1.สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ
2.สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม (สมเด็จพระสังฆราช
พระองค์ที่ 20)
3.สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร
4.สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดเทพศิรินทราวาส
5.พระพรหมวชิรญาณ วัดยานนาวา
6.พระพรหมโมลี วัดพิชยญาติการาม
7.พระพรหมเมธาจารย์ วัดบุรณศิริมาตยาราม
8.พระวิสุทธิวงศาจารย์ วัดปากน้ำ
9.พระพรหมเมธี วัดสัมพันธวงศาราม
10.พระพรหมุนี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
และพระสงฆ์เจริญคาถาพุทธาภิเษกจากวัดสุทัศน์เทพวราราม
ประกอบด้วยพระคณาจารย์นั่งบริกรรมจิตภาวนาอธิฐานจิตประกอบด้วย
1.พระธรรมธีราชมหามุนี (เที่ยง) วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ
2.พระพิพิธพัฒนาธร (สมชาย) วัดปริวาสราชสงคราม กรุงเทพฯ
3.พระสิทธิพัฒนาทร (หมู) วัดทรงธรรมวรวิหาร จ.สมุทรปราการ
4.พระครูพิพัฒน์วิทยาคม (เจริญ ฐานยุตฺโต) วัดโนสว่าง จ.อุดรธานี
5.พระครูจันทนิภากร (ถวิล จนฺทสโร) วัดถ้ำพระบำเพ็ญบุญ จ.เชียงราย
6.พระครูวิมลสมณวัตร (เพี้ยน อคุคธมฺโม) วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี
7.พระมหาสุรศักดิ์ อติสกฺโข วัดประดู่ จ.สมุทรสงคราม
8.พระสัญญา (คง) กมฺมสุทฺโธ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม
9.พระสิริ สิริวฑฒโน วัดตาล จ.นนทบุรี
รูปแบบของพระกริ่งที่จัดสร้างครั้งนี้
เป็นพุทธศิลป์จีนแบบโบราณที่มีความงดงามยิ่งนัก จีวรมีลวดลายวิจิตร
พระหัตถ์ทรงหม้อยาวิเศษ ซึ่งเป็นต้นตำหรับของการสร้างพระกริ่ง
ที่ฐานหลังองค์พระจารึกอักษรว่า สุวัฑฒโน เหนือขึ้มมาเป็นโค้ดพระนาม ญสส
และเลขกำกับองค์พระ ใต้ฐานมีลายเซ็นสมเด็จพระสังฆราช
(หากเป็นเนื้อทองคำจะมีอักษรขอมอีก 1 โค้ด
กำกับไว้ ) นอกจากนั้นยังได้รับพระราชทานชนวนพระกริ่งหลายๆ รุ่น
ที่สมเด็จพระสังฆราชได้รวบรวมไว้ นำมาผสมหล่อเป็นพระกริ่งสุวัฑฒโน