เหรียญหลวงพ่อเกษม ม.ต.เสาร์5 มหามงคล พิมพ์ใหญ่ เนื้อทองคำบริสุทธิ์ 31.11 กรัม สภาพสวยมาก
เหรียญ ม.ต. เสาร์ห้า
หลวงพ่อเกษม เขมโก รุ่นเสาร์ห้ามหามงคล (บล็อกเยอรมัน) สำนักสุสานไตรลักษณ์
จ.ลำปาง เนื้อทองคำบริสุทธิ์ 99.99% ขัดเงา 3 มิติ
ผลิตโดยโรงกษาปณ์ของรัฐบาล ประเทศเยอรมัน
โดยมีพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกในวันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2537 โดย
หลวงพ่อเกษม เขมโก
เหรียญหลวงพ่อเกษม เขมโก
ม.ต. เสาร์5 (บล็อกนอก) ประเทศเยอรมันนี สุดยอดปฏิมากรรมของโลก
ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีใหม่สุด ด้วยรูปแบบที่สวยงาม โดยเฉพาะขอบเหรียญจะลงอักขระ
ยันต์มหามงคลของหลวงพ่อเกษม เขมโก "ล้อมรอบขอบเหรียญ"
ซึ่งไม่เคยมีใครจัดสร้างในลักษณะเช่นนี้มาก่อน ในการประวัติการสร้างเหรียญ
ลักษณะเหรียญ
ทรงกลมขอบเรียบ เส้นผ่าศูนย์กลางเหรียญ 3.2 ซม.
หมายเลขประจำเหรียญ 208
น้ำหนักเหรียญ 31.11 กรัม
อักขระยันต์มหามงคล ล้อมรอบเหรียญ มีความหมาย
ดังนี้
“อโรคา ปรมา ลาภา”
“ขอให้ท่านรอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง”
“ขอให้ท่านเป็นผู้มีโชคดีอันอุดม”
หลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นพระสายวิปัสสนากรรมฐาน
ไม่ยึดติดแม้แต่สถานที่ ท่านได้ปฏิบัติธรรม ณ สุสานไตรลักษณ์ตลอดชนชีพ
เป็นพระที่เป็นที่เคารพสักการะของคนในจังหวัดลำปางและทั่วประเทศ
ท่านปฏิบัติศีลบริสุทธิ์ตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยไม่ติดยึดในกิเลสทั้งปวง
หลวงพ่อเกษม เขมโก (นามเดิม
เจ้าเกษม ณ ลำปาง) เป็นพระเถระและเกจิอาจารย์ ผู้เคร่งครัดในธุดงควัตร ปลีกวิเวก
พุทธศาสนิกชนในจังหวัดลำปางและชาวไทยเคารพนับถือว่าท่านเป็นพระเถราจารย์ปูชนียบุคคลรูปหนึ่งของประเทศไทย
และมีผู้มีความเคารพศรัทธาเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน
อีกทั้งท่านยังเป็นเจ้านายในราชวงศ์ทิพย์จักร ที่ออกผนวชอีกด้วย
หลวงพ่อเกษม เขมโก
เป็นพระสายวิปัสสนาธุระ ไม่ยึดติดแม้แต่สถานที่ ท่านได้ปฏิบัติธรรม ณ
สุสานไตรลักษณ์ตลอดชนชีพ ท่านปฏิบัติศีลบริสุทธิ์ตามพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยไม่ติดยึดในกิเลสทั้งปวง
ท่านเป็นพระที่เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนในจังหวัดลำปางและพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ
หรือแม้กระทั่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ก็ทรงมีความเคารพศรัทธาในความที่ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
และได้เคยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงนมัสการท่านเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2536 หลวงพ่อเกษม
เขมโก มรณภาพ ณ ห้องไอซียู โรงพยาบาลลำปาง จังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2539 เวลา 19:40 น. ซึ่งตรงกับวันจันทร์
แรม 11 ค่ำ เดือน 2 ปีกุน
ยังความอาลัยเศร้าโศกเสียใจมายังหมู่สานุศิษย์ทั่วประเทศ
ส่วนสรีระของท่านนั้นก็ยังความอัศจรรย์ด้วยเนื่องจากไม่เน่าเปื่อยเหมือนอย่างสังขารทั่วไป
ทั้งยังเขียนป้ายบอกผู้ที่มาเคารพสรีระ ท่านด้วยว่าให้พนมมือไหว้ที่หน้าอกเพียงครั้งเดียวแล้วไม่ต้องกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์อย่างศพของพระเถระทั่วไปนับว่าท่าน
นั้นถือสมถะเป็นอย่างมาก